หมดยุคของเกมแนว MMORPG แล้วหรือ ?

นี่คือการวิเคราะห์ เกี่ยวกับวงการเกมออนไลน์ จากผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านเกมออนไลน์ ในเกาหลี

" MMORPG มันเก่าเกินไปแล้วล่ะ จริงมั้ย ? MMORPG จากประเทศของเรามีออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่จำนวนผู้เล่นกลับสู้เกมแนว Casual ไม่ได้ซักนิดเดียว "

นี่คือคำพูดจากผู้เชี่ยวชาญด้านเกมออนไลน์ บนเว็บไซต์ชื่อดังในเกาหลี เนื่องจากกระแส MMORPG ที่เคยโด่งดังในช่วง หลายปีที่ผ่านมานั้น กำลังค่อยๆจางหายไปเรื่อยๆ และสิ่งที่เข้ามาแทนที่ MMORPG นั้นก็กลับกลายเป็นเกมแนว Casual จึงทำให้ผู้พัฒนาเกมหลายค่าย เริ่มตื่นตัว และเปลี่ยนแผนไปเน้นเกมแนว Casual มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกมแนว FPS ที่กำลังกลายเป็นแนวเกมยอดนิยมไปซะแล้ว



" ทำไมถึงเป็นแบบนี้น่ะหรอ... "

ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเกมออนไลน์เกาหลีกล่าวว่า การที่เราจะต้องมาเก็บเลเวลเพื่อพัฒนาตัวละครเป็นเวลานานๆ ถึงแม้ว่าคุณจะชอบเล่นเกมนี้มากแค่ไหน ไม่ว่าคุณจะต้องเล่นเกมนี้ไปอีกนานแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วคุณก็จะเบื่อมันในที่สุด และเมื่อคุณเบื่อ คุณก็จะเปลี่ยนเกม และคุณก็จะต้องมานั่งเก็บเลเวล เกมใหม่ที่คุณเลือก ไปเรื่อยๆ ซึ่งมันก็จะมันก็วนอยู่แบบนี้ และในที่สุด คุณก็จะเบื่อการที่จะต้องมานั่งเก็บเลเวลนั่นเอง

" แบบนี้ในอนาคตเราคงได้เห็นเกม Casual ซะเป็นส่วนใหญ่แน่ๆ "

เนื่องจากในปี 2008 นั้น ทางผู้พัฒนาเกมต่างตระหนักถึงเรื่องนี้ หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ก็ต่างเปลี่ยนแผนไปเน้นเกมแนว Casual มากขึ้น จึงทำให้ช่วงนี้ เราจะได้เห็นแต่เกมแนว Casual เปิดให้บริการกันมากขึ้น โดยเฉพาะเกมแนว FPS ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก และรองลงมาก็จะเป็นเกมแนว Sport และ Dance Game ตามลำดับ

" MMORPG อาจจะกลับมาโด่งดัง อีกครั้ง ถ้า...."

สิ่งที่จะทำให้ MMORPG กลับมาโด่งดังอีกครั้งได้ก็ต่อเมื่อ เป็นเกมที่แหวกแนว กราฟฟิคที่สวยงาม ระบบเกมที่ลงตัว และเป็นอะไรที่ไม่ "ซ้ำซาก" ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า " แน่นอนว่าหลายบริษัท กำลังซุ่มเพื่อที่จะพัฒนาเกม MMORPG ให้กลับมาโด่งดังอีกครั้ง" และมันก็เป็นเรื่องที่ดี ที่ ในอนาคต เราอาจจะได้เห็นเกม MMORPG ที่มีความสุดยอดมากกว่าในยุคก่อนๆก็เป็นได้



อ้างอิง http://www.compgamer.com/readnews.php?news_id=4882

มาอัพเดรทข่าวสารนะครีาบบ ส่วนตัวผมก็(เริ่ม)เบื่อแนวเก็บเลเวลเช่นกาน

เป็นจังหวะเดียวกับที่ Counter Strike Online กำลังจะกลับมาทวงบัลลังค์คืน

นึกถึงก่อนที่ MMORPG จะรุ่งเรือง เกมส์ที่ครองตลาดขณะนั้นก็คงเป็น CS นี่แหละ (ถึงแม้ตอนนั้นจะยังไม่ออนไลน์)

เมื่อเด็กๆเริ่มเบื่อกับการเก็บ lv. เบื่อเดินตีมอนที่ไม่รู้จักหมดสิ้น จะเห็นว่าเด็กๆหันไปสนใจเกมส์แนวอื่นอย่าง

Audition , 16 pound , หรือ SF ซะมากกว่า

แต่ประเด็นของผมคือ

แล้วสิ่งที่ลงทุนไปกับ MMORPG ล่ะ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเติมเงิน ค่าใช้จ่ายซื้อไอเท็ม บลาๆๆๆๆ

ของเหล่านี้เราเสียเงินไปแต่เราไม่ได้ของกลับมา ของเหล่านั้นอยู่ที่เครื่อง Sever ต่างๆ

เมื่อเีราเปลี่ยนเกมส์เล่นใหม่ ของที่เราลงทุนไปทุกวันมันไม่ได้ติดตัวเราไปเกมส์อื่นด้วย

แล้วเมื่อไรที่เกมส์เหล่านั้นปิดตัวลง ID เราก็จะไร้ประโยชน์ Save ไม่มีความหมาย สิ่งที่เราลงทุนมาก็จะกลายเป็น สูญ


นี่แหละนะ ผมถึงไม่ชอบเกมส์ออนไลน์

ลำหรับผมนี่ผมเบื่อความอึดที่ต้องใช้เล่นพวกMMORPGกับสิ่งที่ซ้ำๆซากเหมือนกัน
CSนี่ถ้าผมมีเครื่องคอมกันเน็ตแรงพอคงไม่มานั้งเล่นMMOPRGหรอก
อย่างน้อยพวกนี้เป็นเกมที่ฝึกคนเล่น ไม่ใช่คนเล่นไปฝึกเกม เหอๆ
สังเกตุดูดีๆว่าสมัยนั้นที่โดดไปเล่นยังไม่ค่อยเจอพวกเกรียนเลยแฮะ ถึงจะโหวกเหกกันในร้านก็เหอะ

12 Tails ของบิ๊กบั๊กจึงพยายามนำเอาข้อดีของทั้งสองรูปแบบมารวมกันครับ
แต่เราไม่ได้คิดแค่นั้นก็ดังแล้ว ขายได้แล้ว รวยแล้ว เหมือนเกมอื่นๆ นะ

เราต้องการจะให้อะไรกับผู้เล่นเรามากกว่านั้น

ถ้าเกมฮีโร่มาสเตอร์ตั้งเป้าไว้ที่คำว่า ฮีโร่

เกม 12 Tails นี้ก็จะตั้งเป้าไว้ที่คำว่า เพื่อน ครับ

ถ้าเราทำสำเร็จตามที่หวัง รับรองทุกคนจะได้เพื่อนดีๆผ่านเกมของเราเพียบเลยครับ
และเกรียนจะเล่นไปไม่ได้ไกลแน่ๆ

ปัญหาคือ ต้องพยายามทำแบบให้สามารถดึงคนให้ชอบรูปแบบ party
คือถ้าปาร์ตี้ลงดันเจี้ยน ไอเทม กับเงินที่ได้ต้องให้กันอย่างคุ้มค่า คุ้มเวลา มีเควสที่ไม่ซับซ้อน ซ้ำซากชวนง่วงนอนมากกว่าน่าเล่นครับ
ดนตรี น่าฟังก้มีส่วนทำให้ไม่เบื่อเกมมากขึ้น

เรื่อง เกมแนวเก็บเลเวลอะไรนี้ มันไม่มีผลหรอกครับ เกรียน เลเวลความอดทนมักจะต่ำ แค่เก้บเลเวล จาก 99ได้สัก 50 นี้ก็เก่งมากแล้ว ----

ไม่อยากบอกว่า เกมแนว ปาตี้ ผมชอบสุด (คือ บ้าพวกแนวไฟนอลอะนะ)
ถ้าได้ฉากต่อสู้ที่ แนวๆ เกม RPG(แนว TS หรือ แฟรี่แลน) ก็ดีสินะ (แต่ TS,แฟรี่แลน เรียกมอนมาสู้ได้แค่ 1 ตัวเอง มันมีจำกัด T T"...) ชอบฉสกต่อสู้แบบ Grandia 2 น่ะ แจ่มเลย ช่วยๆกันสู้ แถมซัฟพอตกัน มันด้วย สมจริงด้วย

ถ้าผู้เล่นให้ความสนใจมาก แนวเกมแบบปาตี้ "มันมากๆ" และต้องดังกระจาย แต่ผลกระทบของปาตี้ก็มี ถ้าผู้เล่นน้อยก็ เจ๊ง กระจายเช่นกัน


วันนี้มีเวลาได้ดูการ์ตูนเรื่อง Beet นักล่าอสูร (โตแล้วยังดูการ์ตูน ) (คนเขียนเก่งจริงๆๆ นำเอาการ์ตูนทำในรูปแบบเกม มีความน่าสนใจ มีการรวมกลุ่ม ปราบมอนเตอร์ มีการรวมเลเวลกันว่าเท่าไหร่ถึงจะผ่านประตูไปได้ (จนคิดอยากให้มีเกมแบบนี้เจงๆ) ) ได้ยินมาว่า คนเขียนคนเดียวกับ คนเขียนเรื่องดราก้อนเควสน้าาาา ซึ่งการ์ตูนไม่เลวเลย


(ดูแล้วคิดถึงเกมแนว Final เลย)
อ้างอิง http://www.animeinthai.com/modules.php? ... cle&sid=22

Grandia 2 เป็นเกมที่ผมให้อันดับ 1 เลย FF ไว้อันดับรองก่อนละกัน

รีวิว : http://www.gamespaper.com/reviews/PlayS ... dia2.shtml
http://news.softpedia.com/news/Grandia- ... 1468.shtml

เป็นเหตุผลที่ผมเลิกเล่นเกมส์พวกนี้แหละ แต่ก็เคยหันไปเล่น online ฟรี server นอก เพราะช่วงนั้นของไทยมีแต่เสียตัง
สุดท้ายก็กลับมาวังวนเดิม ไม่ได้อะไรเป็นรูปธรรม สิ่งที่มีไม่สามารถจับต้องได้ เสียเวลาเล่นด้วย นับๆ ไปสัปดาห์นึงหมดเวลาไปกับพวกนี้เยอะ เวลาพวกนี้เอาไปทำไรได้อีกเยอะเลยงะ ตอนนี้เลยเลิกเล่น online มาได้หลายปีละ
แต่ก็นานา จิตตัง ครับ เพราะบางคนเล่นเพื่อสนุก ผ่อนคลายก็ว่ากันไป แบ่งเวลาเป็น ใช้เวลาให้เหมะสมกับสถานภาพของตนก็ไม่ถือว่าเป็นภัย ดีกว่าเอาเวลาไปมั่วสุมทำสิ่งไม่ดีละเนอะ

เป็นแฟน Grandia เหมือนกันครับ เล่นทุกภาคเลย
(แม้ว่า Grandia X จะไม่ดีเหมือนเก่าก็ตาม)
ชอบภาคแรกที่สุด คาร์เร็คเตอร์ของพระเอกดีมากๆเลย
แต่ถ้าเกม RPG อันดับหนึ่งในดวงใจ ต้องขอบอกว่า Romancing Saga นะ
เล่นตอนเด็กๆ ขนาดไม่รู้เรื่องยังเล่นไปตั้ง 80 ช.ม.

ส่วน Beet นี่ชอบมากๆเหมือนกัน แต่ไม่เห็นมีรวมเล่มในไทยซะที

ยังไงยังไม่คิดว่าแนวนี้จะตายนะ เพียงแต่ที่ผ่านมายังไม่มีคนเอาไปทำต่อให้มันดีน่ะ
เห็นเกมไหนๆก็ลอก Ragnarock เหมือนกันหมด ต่างกันตรงรายละเอียดเท่านั้นเอง
งี้คนเล่นก็เบื่อแย่สิ

เรื่องบีต นักล่าอสูร วาดโดยอาจาร์โคจิ อินาดะ ครับ
เป้นคนเดียวกับที่วาดการ์ตูนเรื่องดราก้อนเควสต์ ภาคได

ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือเครือสยามอินเตอร์ ปัจจุบัน บีตนี่ก็ของ สยามอินเตอร์เช่นกันครับ
เร็วๆ นี้จะมีรวมเล่นแน่นอน

สำหรับการ์ตูนที่มีชื่อเรื่องว่า ดราก้อนเควสต์ จริงๆ ทั้งหมด มี 8 เรื่องนะครับ
1.ภาคผู้กล้า อาเบล (จากเกมเควสต์ 3)
2.ภาคได (คนเขียนเดียวกันกับ บีต นี่ล่ะ)
3.ภาคผู้กล้าโรโตะ (เอาเกมเควสต์ภาค 1 และ 3 มายำรวมกัน)
4.ภาคองค์หญิงอารีน่า (จากเกมเควสต์ 4)
5.ภาคแผ่นดินสวรรค์ (จากเกมเควสต์ 5)
6.ภาคแผ่นดินมายา (จากเกมเควสต์ 6)
7.ภาคนักรบอีเดน (จากเกมเควสต์ 7)
8.ภาคดราก้อนเควสต์มอนสเตอร์ (จากเควสต์ 5)

จริงๆ ยังมีอีกนะครับ แต่ทำออกมาเป้นภาพยนต์ที่ฉายในโรง คือ เควสต์ 2 (ฉายที่ญี่ปุ่น ลายเส้นเป้นการ์ตูนผู้หญิงไปเลย)

ภาคได ก็เป้น 1 ในนั้น อันนี้ขอทำความเข้าใจไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยวจะสับสนว่า ดราก้อนเควสต์จะเหมือนกันทั้งหมด เช่นเดียวกับในภาคเกม ซึ่งคนที่ดีไซน์คาแรกเตอร์ทั้งหมด คืออาจารย์โทริยาม่า (คนเขียนเดียวกับ ดราก้อนบอล) แต่จารย์โทริ แกแค่ออกแบบมอนสเตอร์นะครับ เรื่องเนื้อหา แกไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย

ใครที่เคยเล่นเกมตระกูลนี้มาก่อน คงพอจำกันได้นะครับ
คิดถึงมากมาย.....

ปล.ผมไม่ได้สมัครสมาชิกน่ะครับ แต่เข้ามาอ่านประจำ ถือโอก่านี้ให้กำลังใจ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเกมฮีโร่มาสเตอร์มากๆ นะครับ สนุกจริงๆ ที่ทำงานผม เล่นกันทั้งหมด 3 คน 3 กล่อง เล่นแล้วคิดถึงไฟน่อล 7 ก็จริง แต่พวกคุณก็ทำเกมที่กล้าบอกได้เต็มปากเต็มคำอย่างไม่อายใครเลยว่า นี่คือฝีมือของคนไทยจริงๆ สู้ๆ ครับ

ลืมเสริมไปนิดครับ สังเกตไหมว่า ดราก้อนเควสต์ทั้งหมดที่ทำออกมาเป้นการ์ตูน มีความเกี่ยวข้องกับภาคที่ออกมาเป็นเกมส์ทั้งสิ้น

ยกเว้นภาคได ภาคเดียวเลย ที่ไม่เกี่ยวข้อง ....